ในสมัยก่อน คำว่าหน้าวัด
ก็คือบริเวณท่าน้ำวัดสะแกในสมัยนี้
เพราะสมัยก่อนเขาสัญจรไปมาทางเรือเป็นหลัก
เช้าวันหนึ่ง
มีชาวบ้านคนหนึ่งมาปฏิบัติภาวนากับหลวงปู่ (สมัยนั้นเขาเรียกหลวงปู่ว่าหลวงพ่อบ้าง
หลวงพี่บ้าง) ภาวนาเสร็จ
ก็ลากลับไปพร้อมกับพระสมเด็จที่หลวงปู่แจกไว้กำนั่งสมาธิ ๑
องค์ แกก็พกใส่กระเป๋าเสื้อ แต่พอตอนกลับ
แกก้มตัวในระหว่างที่จะลงเรือทำให้องค์พระตกหล่นลงไปในคลอง
ไม่สามารถเอาคืนมาได้แกไตร่ตรองอยู่พักหนึ่ง
ด้วยความเสียดายพระที่ตกลงไปในน้ำ แกก็เลยตัดสินใจเดินกลับมาเพื่อจะเอ่ยปากขอพระองค์ใหม่กับหลวงปู่
พอแกกลับไปที่กุฏิหลวงปู่
กราบหลวงปู่เสร็จ ก็แลไปเห็นพระสมเด็จองค์หนึ่งอยู่ในพานข้างตัวหลวงปู่ แต่ทว่าองค์พระนั้นเปื้อนโคลน แกเล่าถวายหลวงปู่ให้ทราบเหตุการณ์ เสร็จแล้วหลวงปู่ก็ถามว่าใช่องค์ที่อยู่ในพานนี้ไหม
แกนำมาพิจารณาดูแล้ว
ก็จำได้ว่าองค์นี้แหละ จึงเรียนหลวงปู่ไปว่าแกมั่นใจว่าเป็นองค์นี้แน่นอน หลวงปู่จึงมอบพระคืนให้แกไป
ชายผู้นั้นนำพระมาอาราธนาพกติดตัวกลับบ้านไปอีกครั้งด้วยจิตใจที่เบิกบาน แต่อดสงสัยไม่ได้ว่าองค์พระเสด็จกลับขึ้นมาได้ยังไง
ก่อนจะเดินกลับออกไป
แกพูดขึ้นว่า "เอาเงินล้านมาแลกก็ไม่ยอม"
ขอบพระคุณคุณพรสิทธิ์
ผู้บันทึก www.luangpordu.com |