"ผู้ใดที่เคยสร้างบุญสร้างกุศลมากับข้า
เคยเป็นศิษย์เป็นอาจารย์
เป็นลูกเป็นหลาน
สร้างบุญกุศลมากับข้ามา
แม้ในชาตินี้ไม่ได้พบสังขารธรรม
ของข้า แต่พอพบ
เห็นหลักธรรมคำสั่งสอนของข้า
แล้วเกิดศรัทธา
คนผู้นั้นแหละเคยสร้างบุญ
สร้างกุศลมากับข้า
เคยเป็นศิษย์เป็นอาจารย์
เป็นลูกเป็นหลานของข้า"
หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.อยุธยา
Luangpoo Doo Phromapanyo Wat Sakae
บทสนทนาของหลวงปู่ดู่และศิษย์
ผู้ถาม : "ทำไมต้องห้อยพระ ไม่ต้องใช้ ได้ไหมครับ"
หลวงปู่ดู่ : "กำลังใจคนไม่เท่ากัน เรามีเวลาเผลอ เพราะไม่ใช่พระอรหันต์ ถ้าจิตเป็นพระ ไม่ต้องใช้ก็ได้ หรือถ้าทำเป็นแล้วก็ไม่ต้อง"
ผู้ถาม : "บารมีพระช่วยได้จริงหรือ"
หลวงปู่ดู่ : "ถ้ากรรมไม่หนักพระช่วยได้ ถ้าหนักพระช่วยไม่ได้ ตอนตายถ้านึกถึงพระก็ยังไปสวรรค์"
ผู้ถาม : "ทำอย่างไร จึงนึกถึงพระ หรือ ความดีก่อนตาย"
หลวงปู่ดู่ : "ต้องทำอยู่เรื่อย ๆ เหมือนกับทำไมต้องกินข้าวทุกวัน ถ้าไม่ทำบุญหรือทำ แต่บางทีนึกออกได้ยาก เช่นมีคนแถววัดสะแก ทำบาปกับปลาเอาไว้มาก ก่อนตายพอน้องเข้าไปบอกทางว่า พุทโธ แกกลับบอกว่า แกงส้มปลาเทโพอยู่ในครัว พอพี่เข้าไปบอกว่า อะระหัง แกกลับบอกว่า มีแต่กระชัง (ใส่ปลา) ทั้งนั้น"
หลวงปู่ดู่กล่าวถึงบทพระมหาจักรพรรดิ
"คาถาบทนี้เป็นของดี หมั่นท่องไว้ทุกวัน ปกติเขาไม่ให้กันหรอก เพราะเขากลัวลูกศิษย์จะดีกว่าอาจารย์ แต่ข้าไม่เคยกลัวและไม่ปิดบัง ท่องให้ดีนะอีกหน่อยจะรวย เพราะมีการกล่าวถึงพระสีวลี ผู้เลิศทางลาภไว้ด้วย อาบน้ำอาบท่า อาบไปเสกไปก็ได้ดีทั้งนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้ามาบอกพวกแกข้าทดลองมาแล้วทั้งนั้น เมื่อดีแล้วจึงมาบอก ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ศรัทธาและการหมั่นฝึกฝนปฏิบัติ คนเราอยู่ดี ๆ จะให้รวยได้อย่างไร ต้องปฏิบัติให้ดีเสียก่อน ดูอย่างข้าเมื่อก่อนต้องไปยืมเงินเขามาซื้อธูป เทียน ใบชามาเลี้ยงแขก เดี๋ยวนี้ของกินของใช้มีให้เกลื่อนกลาดไป เรามาพบไม้งามเมื่อขวานบิ่น แกว่าจริงไหม ของดีของอร่อยกินก็ไม่ได้ ฟันไม่มี"
หลวงปู่หัวเราะแล้วเสริมอีกว่า "คนเราต้องทำให้ดี เมื่อดีแล้วจึงรวย แล้วจะได้ไม่ซวย พระจะดีต้องหมดอยาก ถ้ายังอยากอยู่ก็ไม่ใช่พระดี"
ข้อมูลจาก : หนังสือกายสิทธิ์ สำนักสงฆ์พุทธพรหมปัญโญ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่